ความหมาย
แนวความคิด และประโยชน์
ความหมาย
แนวความคิด และประโยชน์ของการรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษ “รอการกำหนดโทษ” หมายความว่า
วิธีการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด แต่ยังไม่ได้ กำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลย ส่วน “รอการลงโทษ”
หมายความว่า วิธีการที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมี ความผิด และได้กำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยแล้ว
แต่ยังให้รอการลงโทษไว้ก่อน
การรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษเป็นวิธีการหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมอาญา ทางเลือก (alternative
criminal justice) ที่น
ามาใช้เพื่อเบี่ยงเบน หรือหันเห (diversion) คดีออก จากกระบวนการยุติธรรมอาญากระแสหลัก (conventional
criminal justice) 3 วิธีการนี้มี แนวความคิดเน้นหนักไปที่การแก้ไขฟื้นฟู
(rehabilitation) ผู้กระทำความผิดที่ไม่สมควรถูกส่งตัวเข้า สู่ระบบเรือนจำ
ให้ได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจเป็นคนดีภายในระยะเวลาที่ศาลจะได้กำหนด4 (ระยะเวลาที่ศาลจะได้กำหนดคือระยะเวลาที่ศาลจะรอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษ
แล้วแต่ กรณี) สำหรับประโยชน์ของการรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน เป็นต้นว่า
(1) ผู้กระทำความผิดได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแทนการที่ต้องถูกลงโทษจำคุก
(2) ป้องกันไม่ให้พฤติกรรมของผู้กระทำความผิดที่เริ่มเบี่ยงเบนขั้นต้น
กลายเป็นพฤติกรรม เบี่ยงเบนไปอย่างถาวรหากต้องถูกลงโทษจำคุก
(3) ป้องกันปัญหาความแออัดของจำนวนนักโทษในเรือนจำ
(4) ทำให้ผู้กระทำความผิดไม่ถูกตีตรา (labeled)
จากสังคมว่าเป็นผู้ที่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
(5) หลีกเลี่ยงการลงโทษจำคุกซึ่งไม่เหมาะสมกับผู้กระทำความผิดบางประเภท
เช่น นักศึกษาลักหนังสือของเพื่อนเป็นครั้งแรก
หากต้องถูกลงโทษจำคุก ก็อาจทำให้นักศึกษาผู้นั้นหมด อนาคตทางการศึกษาได้ เป็นต้น
หลักเกณฑ์ใหม่ในการรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษ
มาตรา 56
วรรคแรก (ใหม่) บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกหรือปรับ
และ ในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปีไม่ว่าจะลงโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตามหรือลงโทษปรับ ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น
(1) ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน หรือ
(2) เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
หรือ ความผิดลหุโทษ
หรือเป็นโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ (3) เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่าห้าปี
แล้วมากระทำ ความผิดอีก
โดยความผิดในครั้งหลังเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และเมื่อศาลได้ค
านึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต
นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น
หรือเหตุอื่นอันควรปรานีแล้ว ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมี ความผิดแต่รอการกำหนดโทษหรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้
ไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกหรือ ปรับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่าง
เพื่อให้โอกาสกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลจะได้ กำหนดแต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา
โดยจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ ของผู้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น